ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ จากการเดิมพันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดจับตาข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
-
ทองคำดึงดูดแรงซื้อ ในช่วงเปิดตลาดเช้าของยุโรปวันจันทร์
-
ปัจจัยหนุนราคา: ความคาดหวังเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-haven)
-
สิ่งที่ต้องจับตา: เทรดเดอร์กำลังรอข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ที่จะประกาศในวันอังคารเพื่อหาทิศทางใหม่
ราคาทองคำ (XAU/USD) ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ใกล้ระดับ $4,350 ในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาตลาดยุโรป โลหะมีค่าชนิดนี้ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า การลดดอกเบี้ยจะช่วยลด “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนและสภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-off) ยังช่วยกระตุ้นให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงในเชิงเข้มงวด (Hawkish) จากเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) และกลับมากดดันราคาทองคำได้ เทรดเดอร์จะรอจับตาสัญญาณเพิ่มเติมจากสุนทรพจน์ของ Stephen Miran ผู้ว่าการเฟด และ John Williams ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ในช่วงสายของวันจันทร์นี้
รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จะเป็นไฮไลท์สำคัญในวันอังคาร ซึ่งประกอบด้วย การจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP), รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง และอัตราการว่างงาน รายงานเหล่านี้จะช่วยให้เห็นภาพความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานได้ชัดเจนขึ้น และน่าจะมีอิทธิพลต่อความคาดหวังในการประชุมเฟดเดือนมกราคม
ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ทองคำปรับขึ้นหลังเฟดลดดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปี 2025 และแรงหนุนจากสินทรัพย์ปลอดภัย
-
เหตุกราดยิงในออสเตรเลีย: สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า เกิดเหตุกราดยิงที่หาดบอนได ในนครซิดนีย์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย และบาดเจ็บ 40 ราย Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แถลงข่าวเมื่อเช้าวันจันทร์ว่า เหตุการณ์นี้เป็น “การโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย” ไปที่ชุมชนชาวยิว และระบุว่าเป็น “การกระทำอันชั่วร้ายจากลัทธิเกลียดชังยิว (Antisemitism) และการก่อการร้ายที่แทงใจกลางของชาติเรา”
-
ความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด:
-
Austan Goolsbee (ประธานเฟดสาขาชิคาโก) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “แนวทางที่รอบคอบกว่าคือควรรอข้อมูลเพิ่มเติม” ก่อนจะลดดอกเบี้ยอีกครั้ง เนื่องจากเหตุการณ์หน่วยงานรัฐบาลปิดทำการชั่วคราว (Government Shutdown) ทำให้รายงานเศรษฐกิจสำคัญของเดือน ต.ค. และ พ.ย. ล่าช้า
-
Beth Hammack (ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์) ระบุว่าธนาคารกลางควรคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปเพื่อกดดันเงินเฟ้อให้ลดลง
-
-
สถานะดอกเบี้ยเฟด: เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดประกาศลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 และเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ โดยลดลง 0.25% (25 bps) สู่ระดับเป้าหมาย 3.50% – 3.75%
-
มุมมองของ Jerome Powell: ประธานเฟดกล่าวว่าการลดดอกเบี้ยทำให้ธนาคารกลางอยู่ในจุดที่สบายใจ “เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรอและดูว่าเศรษฐกิจจะพัฒนาไปอย่างไร”
-
โอกาสคงดอกเบี้ย: เครื่องมือ CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้ความน่าจะเป็นเกือบ 76% ที่เฟดจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคม 2026 (เพิ่มขึ้นจาก 70% ก่อนประกาศลดดอกเบี้ยรอบธันวาคม)
มุมมองทางเทคนิค: ทองคำยังคงรักษารูปแบบเชิงบวกในระยะยาว
ราคาทองคำมีการซื้อขายในแดนบวกวันนี้ จากกราฟราย 4 ชั่วโมง (Four-hour timeframe) แนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ เนื่องจากราคายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) 100 วันที่สำคัญ แบนด์ของ Bollinger Band ที่ขยายกว้างขึ้นบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ โมเมนตัมขาขึ้นยังได้รับการยืนยันจากค่า RSI (14 วัน) ที่อยู่เหนือระดับกึ่งกลางที่ 68.75 ซึ่งแสดงถึงแรงส่งในทิศทางบวก
-
แนวต้าน (ขาขึ้น): ด่านแรกที่ต้องจับตาคือโซน $4,345 – $4,355 (ขอบบนของ Bollinger Band และจุดสูงสุดของวันที่ 12 ธ.ค.) หากผ่านไปได้ ราคาอาจกลับไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4,381 และเป้าหมายถัดไปที่ระดับจิตวิทยา $4,400
-
แนวรับ (ขาลง): แนวรับแรกอยู่ที่จุดต่ำสุดของวันที่ 12 ธ.ค. ที่ $4,257 หากมีแรงเทขายต่อเนื่อง ราคาอาจร่วงลงไปที่เป้าหมายถัดไปคือ $4,200 (เส้น EMA 100 วัน) และแนวรับถัดไปที่ $4,166 (ขอบล่างของ Bollinger Band)
🟩 สมัครเทรดค่าเงิน ทองคำ คริปโตที่ลิ้งค์ ข้างล่าง
https://one.exnessonelink.com/a/se21a7h0
🟩
#gold #gold #goldprice #forex #forextrader #forexsignals #forextrading #forexlifestyle #Forexthailand #forexchallenger1
