โดย สเตฟาโน สุไลมาน และฟรานซิสกา นังกอย
จาการ์ตา (รอยเตอร์) – อัตราเงินเฟ้อรายปีของอินโดนีเซียลดลงเหลือ 1.55% ในเดือนพฤศจิกายน ข้อมูลอย่างเป็นทางการเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 ท่ามกลางราคาอาหารบางรายการที่ลดลง
การอ่านเดือนพฤศจิกายนลดลงจาก 1.71% ในเดือนตุลาคม และสูงกว่าการคาดการณ์เล็กน้อยที่ 1.50% โดยนักวิเคราะห์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ใกล้ระดับล่างสุดของช่วงเป้าหมายของธนาคารอินโดนีเซียที่ 1.5% ถึง 3.5%
อมาเลีย วิดยาสันติ รักษาการหัวหน้าฝ่ายสถิติอินโดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทั่วไป ได้แก่ ราคาพริกที่ลดลงและเชื้อเพลิงบางประเภท
อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำอาจทำให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีขอบเขตในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ นักเศรษฐศาสตร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารอินโดนีเซีย (BI) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า นโยบายระยะสั้นของธนาคารมุ่งเน้นไปที่การรักษาค่าเงินรูเปียห์ให้คงที่ เนื่องจากความไม่แน่นอนทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงภายหลังชัยชนะในการเลือกตั้งสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์
“ธนาคารอินโดนีเซียมีแนวโน้มที่จะยังคงระมัดระวัง เนื่องจากการมุ่งเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพของการเคลื่อนไหวของค่าเงิน” โฮเซียนนา สิตูโมรัง นักเศรษฐศาสตร์ของดานามอน กล่าว

“อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่าจะมีการลดลง 25 bps ในระหว่างการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 17-18 ธันวาคม”
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาที่รัฐบาลควบคุมและราคาอาหารที่ผันผวน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.26% ต่อปีในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งเปรียบเทียบกับ 2.21% ในเดือนตุลาคมและ 2.20% ในการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้






