Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรประกาศแพ็คเกจป้องกันภัยทางอากาศมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครนระหว่างการเยือนเคียฟครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ ตามรายงานของ Downing Street
ในระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ซูนัค “ยืนยันว่าสหราชอาณาจักรจะจัดเตรียมชุดการป้องกันทางอากาศชุดใหม่ที่สำคัญเพื่อช่วยปกป้องพลเรือนยูเครนและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศจากการโจมตีของรัสเซียอย่างรุนแรง” ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ Downing Street
“ชุดความช่วยเหลือด้านการป้องกันมูลค่า 50 ล้านปอนด์ประกอบด้วยปืนต่อต้านอากาศยาน 125 กระบอกและเทคโนโลยีเพื่อตอบโต้โดรนที่จัดหาโดยอิหร่าน ซึ่งรวมถึงเรดาร์หลายสิบตัวและความสามารถในการต่อต้านโดรนอิเล็กทรอนิกส์” ถ้อยแถลงยังคงดำเนินต่อไป
ในระหว่างการเยือนเมืองหลวงของยูเครนอย่างเซอร์ไพรส์ ซูนัควางดอกไม้ที่อนุสรณ์ผู้เสียชีวิตในสงครามของยูเครน และจุดเทียนเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของทุพภิกขภัยโฮโลโดมอร์ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ตามคำแถลง
นายกรัฐมนตรียังได้พบปะกับผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นชาวยูเครนที่เล่าถึง “งานที่บาดใจ” ของพวกเขาในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพังและต่อสู้กับไฟที่เกิดจากการโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยปืนครกของรัสเซีย
“เป็นเรื่องน่าละอายอย่างยิ่งที่ได้อยู่ในเคียฟในวันนี้ และได้มีโอกาสพบกับผู้ที่ทำสิ่งต่างๆ มากมายและยอมจ่ายแพงมาก เพื่อปกป้องหลักการแห่งอำนาจอธิปไตยและประชาธิปไตย” ซูนัคกล่าว ตามคำแถลง
เขาแสดงความภาคภูมิใจที่สหราชอาณาจักร “ยืนหยัดกับยูเครนมาตั้งแต่แรกเริ่ม” โดยกล่าวว่าการเยือนของเขาแสดงถึงความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรที่จะ “ยืนหยัดร่วมกับยูเครนต่อไป ในขณะที่กำลังต่อสู้เพื่อยุติสงครามอันป่าเถื่อนนี้และส่งมอบสันติภาพที่เที่ยงธรรม”
นอกจากแพ็คเกจป้องกันภัยทางอากาศแล้ว Sunak ยังให้เงินสนับสนุน 14 ล้านดอลลาร์ (12 ล้านปอนด์) สำหรับการตอบสนองยูเครนของโครงการอาหารโลก และอีก 5 ล้านดอลลาร์ (4 ล้านปอนด์) สำหรับการตอบสนองยูเครนขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้