เซาเปาโล (รอยเตอร์) – ชาวบราซิลจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในเดือนกันยายน เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานท้องถิ่น Aneel ตัดสินใจที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเนื่องมาจากระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลงท่ามกลางฤดูแล้งของประเทศ
แม้ว่าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จะเติบโตขึ้นในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของละตินอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่แหล่งพลังงานของบราซิลมากกว่าครึ่งหนึ่งยังคงมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
Aneel นำระบบกำหนดราคา “สีเขียว”, “สีเหลือง”, “สีแดงระดับ 1” และ “สีแดงระดับ 2” มาใช้
“สีเขียว” หมายความว่าจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในบิลค่าไฟฟ้า ในขณะที่นับตั้งแต่ “สีเหลือง” เป็นต้นไป จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในประเทศด้วยเช่นกัน
เมื่อเดือนกันยายน Aneel กล่าวในแถลงการณ์เมื่อปลายวันศุกร์ว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะเปิดใช้งานระดับ “สีแดง 2” ซึ่งหมายความว่าชาวบราซิลจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม 7.88 เรอัล (1.40 ดอลลาร์) สำหรับพลังงาน 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมงที่ใช้
ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 เมื่อบราซิลเผชิญกับภัยแล้งครั้งใหญ่ ที่ “ระดับสีแดง 2” ได้รับการบังคับใช้
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าฝนจะตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 50% ในเดือนกันยายนในพื้นที่ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหลักของบราซิล Aneel กล่าว พร้อมเสริมว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะบังคับให้ผู้ผลิตไฟฟ้าต้องใช้โรงไฟฟ้าเทอร์โมอิเล็กทริกมากขึ้น ซึ่งมีราคาแพงกว่า
ในเดือนสิงหาคมไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากผู้บริโภค
(1 เหรียญสหรัฐ = 5.6121 เรียล)
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้